การประชุมวิชาการระดับชาติการวิจัยประยุกต์ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 7
(NCAR NBU : National Conference in Applied Research)
“นวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์เพื่อสังคมแห่งการเรียนรู้”
Innovation and Artificial Intelligence for a learning society
วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568
ณ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต

ขอเชิญผู้ลงทะเบียนนำเสนอผลงานเข้ากลุ่มไลน์ https://line.me/ti/g/Gc5mwqNQ8b

หลักการและเหตุผล

สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นแนวคิดและกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน สังคม และประเทศชาติแบบองค์รวมเพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็ง ยั่งยืน และมีความสุข ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตมีมานานแล้วโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศและนักคิดคนสำคัญ ทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศในทวีปยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร เยอรม สเปน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และประเทศในทวีปเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นต้น กำหนดให้สังคมแห่งการเรียนรู้เป็นวิสัยทัศน์หลักในการพัฒนาคนและประเทศ สำหรับประเทศไทยการปฎิรูปการศึกษาตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ให้ความสำคํญกับการพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตเช่นกัน โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับโอกาสในการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีสิทธิและมีหน้าที่ร่วมรับผิดชอบการจัดการศึกษาตลอดชีวิต และให้การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นการจัดการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม ตอบสนองความต้องการและสอดคล้องกับสภาพของกลุ่มเป้าหมาย และบูรณาการเข้าเป็นวิถีชีวิตของคนในสังคม

 

“สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต” หมายถึง สังคมที่ผู้คนมีนิสัยรักการเรียนรู้ ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการเรียนรู้ มีนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต สนใจและใฝ่หาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ผู้คนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ที่หลากหลายและใช้ความรู้และทักษะความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม มีกระบวนการทางสังคมที่เกื้อหนุนส่งเสริมให้บุคคล กลุ่มบุคคล และชุมชนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรัพยากรและแหล่งการเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการ สะดวกรวดเร็วและมีการให้บริการอย่างครอบคลุมทั่วถึง เป็นสังคมที่มีการแบ่งปัน การถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทุกคนในสังคมร่วมมีบทบาทในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง องค์ความรู้จากผู้ทรงภูมิปัญญา มีระบบการบริหารจัดการความรู้ที่ทุกคนและทุกภาคส่วนในสังคมสามารถมีส่วนร่วมได้ การพัฒนาสังคมเน้นที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์บนฐานการพัฒนาด้านความรู้ ความสามารถ ทักษะ และทัศนคติที่ดีแบบองค์รวมเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีคุณภาพและมีความสุข

 

มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพได้ตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้โดยใช้นวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ซึ่งจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมด้านการศึกษาในการสร้างรูปแบบการเรียนรู้ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้เรียนและผู้สอนให้สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น การประมวลผลข้อมูลด้วย ChatGPT การออกข้อสอบและสร้างบทความด้วย Alisa AI Chatbot การสร้างภาพในการใช้งานด้วย CANVA เป็นต้น

 

เพื่อการขับเคลื่อนสังคมแห่งการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาที่มีอาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมภายใต้พื้นฐานกระบวนการวิจัยทั้งระดับพื้นฐานและวิจัยประยุกต์ในสาขาต่างๆ ซึ่งนอกจากทำวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมแล้ว ยังเห็นถึงความสำคัญในการเป็นพื้นที่หรือเวทีในการแหล่งเผยแพร่ผลงานวิจัยให้สาธารณะรับทราบและนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้ โดยสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำวิจัยในบริบทที่หลากหลาย ทั้งยังกระตุ้นนักวิชาการให้เกิดบรรยากาศทางวิชาการแบบกัลยาณมิตร ที่เอื้อประโยชน์ให้กับนักวิจัยมือใหม่ และนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาที่เข้ามาเรียนรู้และพัฒนาตนเอง โดยพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการกับเครือข่ายอื่นๆ ได้ต่อไปในอนาคต ดั่งที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ จึงประสงค์ให้มีการประชุมวิชาการระดับชาติการวิจัยประยุกต์ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2568 ขึ้นในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ ” นวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์เพื่อสังคมแห่งการเรียนรู้ “

สาขาที่เปิดรับ

  1. – วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  2. – สังคมศาสตร์
  3. – ศึกษาศาสตร์
  4. – สหวิทยาการ

กลุ่มเป้าหมาย

จำนวน 350 คน ได้แก่

  • 1. กลุ่มผู้นำเสนอบทความวิจัย และบทความวิชาการ
    • – นักวิชาการและนักวิจัย จำนวน 50 คน
    • – นักศึกษาระดับปริญญาโท – เอก จำนวน  150 คน
    • – นักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน  50 คน
  • 2 กลุ่มผู้เข้าร่วมฟังการเสนอบทความวิจัย และบทความวิชาการ
    • – นักวิชาการ และนักวิจัย จำนวน 50 คน
    • – นักเรียน / นักศึกษา จำนวน 50 คน

รูปแบบการนำเสนอ

  • 1. นำเสนอผลงานวิจัย ณ ห้องประชุม (On-site Presentation)
  • 2. นำเสนอผลงานวิจัยรูปแบบออนไลน์ (Online Presentation)

กำหนดระยะเวลาส่งบทความ

วัน/เดือน/ปี การดำเนินงาน
ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568 ลงทะเบียนนำเสนอบทความ
15 พฤศจิกายน – 15 กุมภาพันธ์ 2568 เปิดรับบทความวิจัย และบทความวิชาการ
 15 กุมภาพันธ์ – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ
10 มีนาคม 2568 แจ้งผลการพิจารณา
15 มีนาคม 2568 ผู้นำเสนอส่งบทความที่ปรับปรุงแก้ไข
28 มีนาคม 2568 วันนำเสนอบทความวิจัยและบทความวิชาการ

 

 

อัตราค่าลงทะเบียน

  • – นักวิจัย 2,500 บาท
  • – นักศึกษา 2,000 บาท
  • – นักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ 1,800 บาท
  • – ผู้เข้าร่วม 300 บาท

การติดต่อลงทะเบียนและส่งผลงาน

  • – อาจารย์นิษรา พรสุริวงษ์ หรืออาจารย์ยุวดี  ชูจิตต์
  • – อีเมล์ nbu.conference2023@northbkk.ac.th
  • – โทรศัพท์ 0-2972-7200 ต่อ 333
  • – โทรสาร 0-2972-7751
  • – มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เลขที่ 6/999  ซ.พหลโยธิน 52  แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220